ผู้ใช้สมาร์ทโฟนชาวจีนใช้จ่ายเงินไปกับการซื้อแอปพลิเคชันเกือบ 35 พันล้านดอลลาร์ในปี พ.ศ. 2560 ตามข้อมูลใหม่จาก App Annie ซึ่งได้คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายแอปพลิเคชันในรูปแบบภาษาจีนจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้คนหลาย ๆ พื้นที่ในประเทศจีนกำลังใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่กันอย่า'แพร่หลายมากขึ้น แต่แม้ว่าจะมีการเติบโตของแอปพลิเคชันในประเทศจีนมากเพียงใด ก็ทำให้ Google พลาดโอกาสในการสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากไม่สามารถเปิด Play Store อีกครั้งที่จีนได้

             Play Store ของ Google ถูกบล็อกจากประเทศจีน ซึ่งข้อมูลใหม่จาก App Annie แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคชาวจีนใช้จ่ายเกือบ 25 พันล้านดอลลาร์ในการซื้อแอปพลิเคชันปี 2560 โดยมีแนวโน้มที่จะมีการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หากโทรศัพท์ หรือการซื้อของผ่านออนไลน์ และอินเทอร์เน็ตยังคงมีดึงดูดความสนใจได้อย่างมากมาย อย่างไรก็ตามบริษัท Apple และบริษัทของจีนอย่าง Tencent และ Baidu มีร้านแอปพลิเคชั่นของตัวเอง ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากจากการที่ Google โดนปิดกั้นบริการในปี 2553 สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนชาวจีนจะสามารถเข้าถึง Play Store ผ่านทางเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) โดยข้อมูลจากปี พ.ศ. 2560 แสดงให้เห็นว่ามีความพยายามเข้าถึงในเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นจากเดิม แม้ว่าในช่วง 7- 8 ปีที่ผ่านมา Google ได้พยายามเปิดตัว Play Store อีกครั้งในประเทศจีนแต่ก็ไม่เกิดประโยชน์

            ในขณะเดียวกัน App Annie คาดการณ์การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของจีนเกิดจากบางเมืองปเช่นปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ที่มีความสามารถในการเข้าถึงได้ดีกว่าผู้คนในเมืองเล็ก ๆ และชนบทที่เพิ่งเริ่มใช้สมาร์ทโฟน โดยการใช้สมาร์ทโฟนกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในจีน ทำให้ Google วางแผนจะเปิดตัว Play Store เวอร์ชันใหม่อีกครั้ง เป็นการร่วมมือกับบริษัท NetEase ของจีน ซึ่งรายงานโดย The Information เปิดเผยว่า บริษัทตระหนักถึงศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของตลาดนี้ ดังนั้นการรวมหลาย ๆ สิ่งเข้าด้วยกันจะทำให้บริษัทสามารถทำรายได้เพิ่มมากขึ้น